“วิศวฯ จุฬาฯ” จับมือ “บีไอจี” ลงนามความร่วมมือ Carbon Management Platform จัดการ – ลดการปล่อยคาร์บอนด้วย Climate Technology

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567  วิศวฯ จุฬาฯ จับมือ บีไอจี ลงนามความร่วมมือในการจัดการตรวจสอบและวิเคราะห์แนวทางการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้งานและการบำรุงรักษาพลังงาน รวมถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยใช้ Carbon Management Platform ที่พัฒนาโดยบีไอจี ยกระดับการบริหารจัดการพลังงานในสถาบันการศึกษา พร้อมร่วมกันศึกษาการนำ Climate Technology มาใช้ประโยชน์นอกเหนือจากภาคอุตสาหกรรม
การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ คุณปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี เป็นผู้ลงนาม โดยความร่วมมือระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และบีไอจี ครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมจาก Climate Technology ในการตรวจสอบและช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคสถาบันการศึกษา
.
ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ กล่าวว่า “คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาวิจัย รวมถึงนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การจัดการก๊าซเรือนกระจก โดยจุฬาฯ ประกาศเจตนารมณ์เดินหน้าลดก๊าซเรือนกระจกในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emissions) ภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593) รวมถึงคณะวิศวะฯ เป็นหนึ่งในสองคณะในจุฬาฯ ที่ได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร จึงได้ร่วมมือกับบีไอจีในการนำนวัตกรรมรวมถึง Platform ที่ช่วยในการวางแผนและติดตามเพื่อช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในรูปแบบ Carbon Management Platform ที่บีไอจีพัฒนาขึ้น มาใช้งานร่วมกับ Platform ที่ทางคณะฯ และสถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน (CBiS) ได้พัฒนาขึ้น มาใช้งานในคณะวิศวะฯ ซึ่งจะช่วยบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างยั่งยืนและช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอนจากใช้พลังงานในอาคารต่างๆ ภายในคณะ”
.
คุณปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บีไอจี กล่าวเพิ่มเติม “บีไอจี ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้าน Climate Technology และเป็นผู้ริเริ่มในการสร้างการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) สำหรับภาคอุตสาหกรรมไทย