กลุ่ม ปตท. จับมือคณะวิศวฯ จุฬาฯ ยกระดับความร่วมมือและมอบเงินสนับสนุนโครงการ ILP สู่ความแข็งแกร่งด้านวิศวกรรมของไทย

March 29, 2013 Written by ITTA1

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2556 เวลา 10.00 น. ณ อาคารมหาจุฬาลงกรณ์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่ม ปตท. โดย นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และผู้แทนประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)  พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทในกลุ่ม ปตท.  ประกอบด้วย  นายบวร วงศ์สินอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) นายอธิคม เติบศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และ นายวิเชียร อุษณาโชติ กรรมการผู้จัดการใหญ่   บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) มอบเงินจำนวน 6,000,000-. บาท  (หกล้านบาทถ้วน) ให้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.บุญสม  เลิศหิรัญวงศ์  คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์  เพื่อสนับสนุนโครงการ Industrial Liaison Program (ILP)   พร้อมทั้งร่วมลงนามเป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งโครงการฯ เพื่อยกระดับความร่วมมือและส่งเสริมการพัฒนาทักษะศาสตร์ทางวิศวกรรม  กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะศาสตร์ทางวิศวกรรมไทยสู่ความแข็งแกร่งในภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน  โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  ดร.ประแสง มงคลศิริ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ ศาสตราจารย์นายแพทย์ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้เกียรติเป็นสักขีพยานฯ

โครงการ Industrial Liaison Program (ILP)  นี้ มุ่งเน้นผลักดันให้เกิดกิจกรรมความร่วมมือระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม   เพื่อพัฒนาด้านทรัพยากรบุคคลและด้านวิจัยของภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรมของประเทศ  พร้อมกับกำหนดเป้าหมายหลักเพื่อสร้างความร่วมมือที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม  เพื่อก้าวสู่ความแข็งแกร่งด้านการพัฒนาศาสตร์ทางวิศวกรรมของไทย  ทั้งในส่วนของบริษัทสมาชิกตลอดจนการพัฒนาทักษะของเหล่าคณาจารย์และนิสิตรุ่นใหม่  ให้มีความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทั้งนี้ปัจจุบันมีบริษัทอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศเป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งโครงการแล้วมากกว่า 21 บริษัท   ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการเชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าไว้ด้วยกัน  อันจะนำไปสู่การปฏิรูปการศึกษาไทยอย่างเป็นระบบและยั่งยืน  รวมทั้งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศให้มีความแข็งแกร่งอีกด้วย