ประชาสัมพันธ์งาน Falling Walls Lab Thailand 2018 และบทสัมภาษณ์พร้อมเทคนิคจากอดีต Finalist

Falling Walls Lab เป็นการนำเสนอไอเดียนวัตกรรมภายในเวลา 3 นาทีด้วยภาษาอังกฤษ เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจ ผู้ชนะจาก Falling Walls Lab ต่างๆทั่วโลกจะได้รับสิทธิเป็นหนึ่งใน 100 Finalist ไปนำเสนอผลงานที่การแข่งขันรอบสุดท้าย ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี โดยได้รับการสนับสนุนค่าตั๋วเดินทางและที่พัก สำหรับปีนี้เป็นปีแรกที่มีการจัด Falling Walls Lab ขึ้นในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ ‘Falling Walls Lab Thailand 2018’

ผู้เข้าร่วมการแข่งขันสามารถนำเสนองานวิจัย, แผนธุรกิจ, หรือแนวคิดริเริ่มทางด้านสังคม ภายในเวลา 3 นาทีเท่านั้น โดยคุณสมบัติผู้สมัครจะต้องเป็นนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรี, ปริญญาโท, ปริญญาเอก, นักวิจัยหลังปริญญาเอก, อาจารย์หรือนักวิจัยรุ่นใหม่, หรือผู้ประกอบการรุ่นใหม่

ผู้ที่สนใจสามารถสมัครภายในวันที่ 20 สิงหาคม 2561 ได้ทาง https://www.daad.or.th/en/2018/08/07/falling-walls-lab-thailand/

งาน Falling Walls Lab Thailand 2018 จะจัดขึ้นในวันที่ 16 กันยายน 2561 ณ Siam Innovation District กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 14:00 น. เป็นต้นไป โดยการสนับสนุนจาก Federal Foreign Office of Germany จัดงานโดย Friedrich Naumann Foundation for Freedom พร้อมด้วยการสนับสนุนจาก Academic Exchange Service (DAAD), EURAXESS, KX MADE, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, KMUTT Hatch, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, และ German-Thai Chamber of Commerce

 

เนื่องด้วยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีอาจารย์ ดร.ณัฏฐ์ ลีละวัฒน์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ เป็นผู้มีประสบการณ์การผ่านเข้ารอบเป็น Finalist สำหรับ Falling Walls Lab 2016 โดยเป็นตัวแทนจาก Falling Walls Lab Sendai ประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่กำลังทำงานเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยโทโฮคุ จึงขอนำคำสัมภาษณ์และคำแนะนำจากอาจารย์ ดร.ณัฏฐ์ มาประชาสัมพันธ์ด้วยดังนี้

ถาม: อาจารย์ณัฏฐ์นำเสนอผลงานเรื่องอะไร

ตอบ: ผมสมัครเข้าแข่งขัน Falling Walls Lab Sendai 2016 ขณะที่เป็นนักวิจัยหลังปริญญาเอกอยู่ที่มหาวิทยาลัยโทโฮคุ ประเทศญี่ปุ่น ครับ ตอนนั้นได้นำเสนอผลงานวิจัยหัวข้อ “Breaking the Wall of Tsunami Evacuation” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยของผม และเมื่อได้ผ่านเข้ารอบซึ่งเป็นจังหวะที่ผมได้เป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยโทโฮคุพอดีก็ได้เป็นหนึ่งในตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่นไป Falling Walls Lab 2016 ที่กรุงเบอร์ลินครับ

ถาม: Falling Walls Lab มีความท้าทายอย่างไร

ตอบ: แน่นอนที่สุดคือเรื่องของ เวลา ครับ เรามีเวลาจำกัด 3 นาที ซึ่งจริงๆแล้วมีเวลานำเสนอเพียง 2 นาทีครึ่ง แล้วอีก 30 วินาทีเป็นช่วงเวลาถามตอบครับ ผมเชื่อว่าตรงส่วนการนำเสนอแต่ละคนมีวิธีนำเสนอที่แตกต่างกัน สิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้คือ การใช้คำเฉพาะทาง เพราะว่ากรรมการมาจากหลากหลายสาขาหากการนำเสนอของเรามุ่งอธิบายแต่เรื่องเทคนิคจะเป็นการยากที่จะทำให้กรรมการทุกท่านเข้าใจได้ รวมทั้งช่วงเวลา 30 วินาทีสุดท้ายค่อนข้างวัดใจ พอสมควรครับ เพราะว่าเราต้องรีบคิดและตอบทันทีด้วยเวลาที่จำกัด ถ้าเราตอบไม่ครบถ้วนทันเวลากรรมการก็อาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เราพยายามสื่อสารได้

 

ถาม: การเตรียมสไลด์เป็นอย่างไรบ้าง

ตอบ: ด้วยเวลาที่จำกัดเราจึงต้องพยายามปรับข้อความ รูปภาพ และลำดับก่อนหลังให้ดีที่สุด การทำให้ผู้ชมโฟกัสตามจุดที่เรากำลังอธิบายอยู่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ การเปลี่ยนสไลด์ที่เร็วเกินไปย่อมไม่เป็นผลดี

 

ถาม: ได้อะไรจากการเป็น Finalist บ้าง

ตอบ: เมื่อได้เป็น Finalist เราจะได้เป็นตัวแทนไปร่วมงานรอบสุดท้าย Falling Walls Lab ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีครับ ตัวงานนั้นไม่ได้มีเพียงแค่การแข่งขันเท่านั้นแต่เรายังได้ฟัง Keynote จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในหัวข้อต่างๆซึ่งเปลี่ยนไปเรื่อยๆทุกปี เรามีโอกาสได้เข้า Falling Walls Brain Dating Lounge คือการเลือกคนที่เราอยากเดท (ล้อเล่น) อยากแชร์ความคิดไอเดียล่วงหน้าผ่าน Application จาก Falling Walls ว่าเราอยากจะไปคุยแชร์ความคิดไอเดียกับใครบ้างในงานนี้แล้วระบบจะพยายามเลือกช่วงเวลาให้ทั้งคู่ได้มาจับเข่าคุยกัน ได้มีโอกาสทัศนศึกษาสถาบันวิจัยต่างๆของประเทศเยอรมนีแล้วแต่ที่เราสนใจ ได้มีโอกาสสร้างเครือข่ายกับเพื่อนๆตัวแทนจากประเทศต่างๆ และผมก็มีโอกาสได้รับการสัมภาษณ์จากสื่อมวลชนสายวิทยาศาสตร์จากประเทศฝรั่งเศส ช่อง Sciences et Avenir ด้วย รวมทั้งเมื่อกลับมาแล้วก็ยังมีโอกาสได้ออกสื่อต่างๆที่ประเทศญี่ปุ่นอีกเช่นกัน ดีใจที่แม้เราจะไปในนามมหาวิทยาลัยโทโฮคุในเวลานั้นแต่ในการประกาศแนะนำก็มีคำว่า “THAILAND” ตามหลังชื่อ ดีใจที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศครับ

ถาม: อยากจะฝากอะไรถึงผู้ที่สนใจบ้าง

ตอบ: เมื่อโอกาสมาถึงประเทศไทยแล้วนับว่าเป็นสิ่งดีๆ ที่นิสิตนักศึกษาและอาจารย์นักวิจัยรุ่นใหม่จะได้ลอง Challenge ดูครับ ถือเป็นการพัฒนาทักษะการนำเสนอไปด้วยในตัว มันจะเป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายๆกับโอกาสที่จะได้ไปเวทีระดับโลกแบบนี้

 

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.research.chula.ac.th/falling-walls-lab-thailand/

https://www.daad.or.th/en/2018/08/07/falling-walls-lab-thailand/