คณะวิศวฯ จุฬาฯ ส่งมอบฝายกักน้ำและฝายดักตะกอน ให้กับบ้านเชตวัน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นกิจกรรมของนิสิตค่ายวิศวพัฒน์

เมื่อวันที่ 2-6 เมษายน 2564  นิสิตค่ายวิศวพัฒน์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เดินทางไปทำกิจกรรมจิตอาสาโดยทำฝายกักน้ำและฝายดักตะกอน ณ บ้านเชตวัน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน และได้ทำการส่งมอบฝายดังกล่าวให้กับทางพื้นที่ในวันที่ 5 เมษายน 2564 โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สรรเพชญ ชื้อนิธิไพศาล รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิต คุณทวีวิทย์  ศรีไตรรัตนรักษ์  คุณเกียรติชัย ปรีชาชัยสุรัตน์  คุณจรัญญา บุรพรัตน์ ตัวแทนสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าหน้าที่กิจการนิสิต และนิสิตชมรมค่ายวิศวพัฒน์ เป็นผู้ส่งมอบ และมี ว่าที่ร้อยตรีศราวุธ กรจิระเจริญ นายอำเภอนาน้อย  นายอภิชาติ วังเขียว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสันทะ จ่าสิบเอกธงชัย ใจดอนมูล รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลสันทะ เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ และชาวบ้านเป็นผู้รับมอบ

ชาวบ้าน บ้านเชตวัน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่านแต่เดิมส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตรกันมารุ่นสู่รุ่น แต่ด้วยลักษณะของปริมาณน้ำฝนที่ไม่เอื้อต่อการเกษตรมากนักคือ ช่วงหน้าแล้งจะแล้งหนักและกินเวลานาน  ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงสามารถปลูกได้เพียงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ทนแล้ง แต่มีราคาต่ำ นอกจากนี้ด้วยความที่ปลูกได้เพียงข้าวโพดทำให้ชาวบ้านต้องบุกรุกพื้นที่ป่ามากขึ้น การใช้ยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าแมลงที่ทำให้ดินเสีย และการเผาซังข้าวโพด

จากปัญหาที่กล่าวมาจะเห็นว่าปัญหาที่เป็นแกนหลักของเรื่องนี้คือปัญหาการขาดแคลนน้ำ  ซึ่งปัญหานี้จะสามารถแก้ไขได้โดยการทำฝายชะลอน้ำเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง

โดยตั้งแต่ปี 2561 ค่ายวิศวพัฒน์ได้ทำการลงพื้นที่และได้มีการทำฝายหน้าตัดกว้าง 6 เมตร สูง 1.5 เมตร ต่อมาในปี 2562 ได้มีการต่อเติมฝายเก่าให้สูงขึ้น 1 เมตร มีหน้ากว้าง 18 เมตรและมีการต่อท่อเข้าพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านเป็นระยะทางร่วม 1.4 กม.

และในปี 2563 กลุ่มนิสิตได้ร่วมกันทำฝายชะลอน้ำเพื่อดักตะกอนก่อนเข้าฝายเดิม และทำฝายบริเวณตาน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำสำหรับบริโภคได้

ซึ่งจากการทำฝายดังกล่าวให้กับพื้นที่ตั้งแต่ปี 2561 แต่เดิมชาวบ้านปลูกข้าวโพด 100 %  จนปัจจุบันการใช้พื้นที่ปลูกข้าวโพดลดลงเหลือ 65 % โดยชาวบ้านได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกโดยหันมาปลูกไม้ยืนต้น เช่น ทุเรียน  โกโก้ อินทผาลัม ฯลฯ