เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ กับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการเพื่อการวิจัยและพัฒนาการกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี ระหว่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ และ นางสุชิน อุดมสมพร รองเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงษ์แพทย์ เพ่งวาณิชย์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมนิวเคลียร์ และผู้บริหารทั้งสองหน่วยงานร่วมเป็นสักขีพยาน
บันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการเพื่อการวิจัยและพัฒนาการกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มคุณภาพงานวิจัย พัฒนาการกำกับดูแลความปลอดภัยจากการดำเนินกิจกรรมด้านนิวเคลียร์และรังสี และมุ่งหวังขับเคลื่อนงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ต่อไป

ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์เปิดเผยว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีและศาสตร์ทางด้านนิวเคลียร์และรังสีต่อการพัฒนาที่ยั่งยื่นของประเทศ ทั้งในเชิงอุตสาหกรรม สุขภาพ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และศักยภาพในการเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกแห่งอนาคต ภายใต้การใช้งานที่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์ความรู้และบุคลากรทางด้านนี้ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 เป็นต้นมา
ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้มีกิจกรรมความร่วมมือทางวิชาการและการวิจัยระหว่างองค์กรมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยเฉพาะระหว่างบุคลากรจากภาควิชาวิศวกรรมนิวเคลียร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และหน่วยงานต่าง ๆ ของสำนักงานฯ ได้มีการพัฒนาหลักสูตรการศึกษา การฝึกอบรม และงานวิจัยร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการทำงานร่วมกันในระดับบุคลากรและนักวิจัยมากยิ่งขึ้น สร้างความชัดเจนให้กับเป้าหมายของความร่วมมือที่สอดคล้องกับเจตนารมย์ของทั้งสององค์กร และขยายความร่วมมือด้านการวิจัยทางด้านนี้ไปยังห้องปฏิบัติการ และภาคส่วนอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยให้เกิดความหลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ อันจะเกิดขึ้นจากบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ ทั้งในส่วนของบุคลากร สถานที่ อุปกรณ์ และงบประมาณ เพื่อความยั่งยืนด้านการพัฒนาการกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีต่อไป
นางสุชิน อุดมสมพร เปิดเผยว่า ความร่วมมือในวันนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพัฒนางานด้านกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อาทิ การพัฒนาเทคนิคการตรวจวัดและการวิเคราะห์กัมมันตภาพรังสีในสิ่งแวดล้อม การวิเคราะห์กัมมันตภาพรังสีเพื่อความปลอดภัยในสินค้าอุปโภคบริโภค การตรวจวิเคราะห์ก๊าซกัมมันตรังสีเรดอน-222 การพัฒนาทักษะบุคลากรและระบบเครือข่ายห้องปฏิบัติการให้เป็นตามมาตรฐานสากล เพื่อให้การวิเคราะห์มีความความแม่นยำสูงสุด รวมถึงการสนับสนุนความร่วมมือในการทดสอบความรู้และอบรมเกี่ยวกับการต่อใบอนุญาตเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสี

