

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566 ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ชรินพาณิชกุล รองคณบดี พร้อมด้วย ผู้บริหาร คณาจารย์ และนิสิตเก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมแสดงความยินดีกับ ศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ ปัญญาแก้ว เนื่องในโอกาสที่ได้รับแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์กิตติคุณ ประจำปีการศึกษา 2565 และร่วมแสดงความยินดีแด่ คุณประทีป เลี่ยวไพรัตน์ นิสิตเก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ วศ.2508 เนื่องในโอกาสที่เข้ารับพระราชทานปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประจำปีการศึกษา 2565
กรมควบคุมมลพิษ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA และ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AIS ลงนาม MOU โครงการสร้างความร่วมมือส่งเสริมการพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีดิจิทัลบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชนในการมีชีวิตที่มีสิ่งแวดล้อมสะอาดสำหรับทุกคน
.
.
จากสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศโดยเฉพาะคุณภาพอากาศค่าฝุ่น PM2.5 ทั้งในภาคเหนือของประเทศไทย , กทม. และปริมณฑล เป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศที่สำคัญและเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ กรมควบคุมมลพิษ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA และ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AIS เล็งเห็นถึงปัญหาร่วมกัน อีกทั้งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลตามคำแถลงของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เมื่อวันจันทร์ ที่ 11 กันยายน 2566 รัฐบาลจะดำเนินนโยบายเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรี และนําความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทยทุกคน โดยคุณภาพชีวิตที่ดีประการหนึ่งคือชีวิตที่มีสิ่งแวดล้อมที่สะอาดสำหรับทุกคน รัฐบาลจะดูแลรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของประเทศซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาประเทศและส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน รัฐบาลจะแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นวาระแห่งชาติโดยเฉพาะเรื่องฝุ่นควัน PM2.5 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปีและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทุกคนด้วย
.
การดูแลสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว สร้างเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนจากทุกมิติ โดยสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้จากชุดข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม จึงได้เกิดความร่วมมือจากทุกภาคส่วนภายใต้ โครงการสร้างความร่วมมือส่งเสริมการพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีดิจิทัลบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ ในครั้งนี้ เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาคเอกชน และเครือข่ายความร่วมมืออื่น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการพร้อมทั้งส่งเสริมการนำเทคโนโลยีการจัดการสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศรวมถึงนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ประโยชน์ จึงถือได้ว่าเป็นเครื่องมือในเฝ้าระวังและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังต่อยอดให้เกิดแพลตฟอร์มเทคโนโลยีดิจิทัลบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนที่มีสิ่งแวดล้อมที่สะอาดสำหรับทุกคน
.
กรมควบคุมมลพิษเป็นหน่วยงานสำคัญของประเทศที่มีบทบาทในการเสนอแนะ กำหนดมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิด และป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเนื่องมาจากภาวะมลพิษ โดยนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษมีความมุ่งหวังที่จะผลักดันในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือในการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อกำหนดมาตการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเนื่องมาจากมลพิษ มีความยินดีให้การสนับสนุนข้อมูล ตลอดจนองค์ความรู้ด้านบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ เพื่อการดำเนินงานภายใต้โครงการสร้างความร่วมมือส่งเสริมการพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีดิจิทัลบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป
.
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้มีการศึกษาวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมและ “ระบบเตือนภัยฝุ่น” พร้อมจัดทำอุปกรณ์ตรวจวัดค่าฝุ่น PM2.5 มาอย่างต่อเนื่องกว่า 5 ปี จนมีแพลตฟอร์มแจ้งสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ผ่านแพลตฟอร์ม CuSense และ Sensor for All รวมถึง API ที่สามารถดึงค่าฝุ่นจากในระบบ ไปต่อยอด Application ต่าง ๆ ได้เอง ซึ่ง ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นโอกาสอันดีของความร่วมมือนี้จะได้ร่วมกันต่อยอดจากทรัพยากรต่างๆ ที่มีของแต่ละองค์กร เพื่อให้เกิดแพลตฟอร์มเทคโนโลยีดิจิทัลบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศสำหรับข้อมูลเปิดด้านสิ่งแวดล้อม เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนนำข้อมูลเปิดไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวางและสะดวก ซึ่งเป็นกลไกสำคัญหนึ่งในการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากชุดข้อมูลเปิดที่จะแก้ไขปัญหาคุณภาพอากาศ PM2.5 ของประเทศไทย
.
ทางด้านบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด โดย นายวทัญญู เสวิกุล หัวหน้าแผนกงานขายลูกค้าองค์กร ด้านการเงินและหน่วยงานราชการ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด เปิดเผยว่า เทคโนโลยี 5G ถือเป็นเมกะเทรนด์ที่ได้ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก และเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดระยะเวลา และลดต้นทุนในการผลิต ซึ่ง IoT จะเป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่จะสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่คนไทยและภาคธุรกิจ AIS ในฐานะผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมเพื่อประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโครงข่ายให้ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ เป็นรายแรกและรายเดียวในไทย ตลอดจนการสนับสนุนและร่วมพัฒนานวัตกรรมให้กับทุกภาคส่วน เพื่อสร้าง ecosystem ของประเทศให้แข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมายในการนำเทคโนโลยี 5G มาพัฒนาเพื่อยกระดับประสบการณ์ดิจิทัล และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทุกภาคส่วนในทุกมิติ
.
และ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA โดย ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวว่า ในฐานะที่ DGA เป็นหน่วยงานกลางในการขับเคลื่อนดิจิทัลภาครัฐ ได้หารือแนวทางการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยจัดการคุณภาพอากาศร่วมกันระหว่างกรมควบคุมมลพิษ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ AIS โดยทุกฝ่ายเห็นพ้องตรงกันที่จะประสานความร่วมมือในการ ขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดการระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม ตามบันทึกความร่วมมือนี้ DGA ซึ่งมีภาระกิจสำคัญหนึ่งในการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ เพื่อทำหน้าที่สนับสนุน กระตุ้น ติดตามให้คำปรึกษา ตลอดจนส่งเสริมหน่วยงานรัฐให้มีการพัฒนาข้อมูลเปิดให้มีความทันสมัย มีความถูกต้อง และนำไปใช้งานได้หลากหลายเกิดประโยชน์แก่ประชาชน ภาคเอกชน และภาครัฐ พร้อมยินดีให้การสนับสนุนและผลักดันเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากชุดข้อมูลเปิดด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้ความร่วมมือในโครงการนี้ นอกจากนี้ DGA ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งเสมือน SUPER APP ของภาครัฐที่รวมการให้บริการจากทุกหน่วยงานรัฐที่ช่วยแก้ปัญหาประชาชน ปัจจุบันมีบริการแล้วกว่า 112 บริการ โดย DGA มีความมุ่งหวังที่จะต่อยอดผลจากการดำเนินงานโครงการนี้ให้สามารถให้บริการแก่ประชาชนได้บน แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ต่อไป ทั้งนี้โครงการสร้างความร่วมมือดังกล่าวจะได้ช่วยผลักดันนโยบายเพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในมิติของการมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีสิ่งแวดล้อมที่สะอาดสำหรับทุกคน
เมื่อวันพุธที่ 27 กันยายน 2566 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นเจ้าภาพจัดพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท อโยเดีย จำกัด ในการร่วมพัฒนานิสิตหลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล (Computer Engineering and Digital Technology: CEDT) ณ คณะวิศวฯ จุฬาฯ
โดย บริษัท อโยเดีย จำกัด เป็นองค์กรผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ มากกว่า 10 ปี กับความสามารถในการวิเคราะห์ ออกแบบระบบตามความต้องการของลูกค้าทั้งองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่ผ่านการประเมินมาตรฐาน ISO/IEC 29110 และ CMMI DEV Level 3 แห่งแรก ๆ ของไทย ถือเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในแวดวงเทคโนโลยีและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้เกิดความร่วมมือในการร่วมพัฒนานิสิตหลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล (Computer Engineering and Digital Technology: CEDT) ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการผลิตบุคลากรด้านดิจิทัลให้กับวงการธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ
.
คณะวิศวกรรมศาสตร์ นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดี และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรรถวิทย์ สุดแสง หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ได้กล่าวถึงแนวทางต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยและบริษัทที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมถ่ายภาพร่วมกับคุณอานนท์ ตั้งสถิตพร กรรมการผู้จัดการ และคุณจักรพงศ์ นาคเดช Software Development Director บริษัท อโยเดีย จำกัด
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 สมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานประกาศเกียรติคุณวิศวจุฬากิตติคุณอาวุโสดีเด่น ครั้งที่ 9 (พ.ศ. 2566) และวิศวจุฬาดีเด่น ครั้งที่ 18 (พ.ศ. 2566) ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ซูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล
.
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่อง เชิดชูและประกาศเกียรติคุณแก่นิสิตเก่าและคณาจารย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ที่มีคุณงามความดี มีจริยธรรมอันดีงาม มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว สังคม สร้างคุณประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติ และประสบความสำเร็จในการทำงาน ซึ่งมีผู้ที่ได้รับรางวัล ดังนี้
.
รางวัลวิศวจุฬากิตติคุณอาวุโสดีเด่น ครั้งที่ 9 (พ.ศ.2566) จำนวน 8 ท่าน
1. ผศ. ดร.ทวี เลิศปัญญาวิทย์ วศ.2500
2. นายอนันต์ วงศ์พานิช วศ.2503
3. รศ. ดร.พิชนี โพธารามิก วศ.2504
4. นายประเจิด สุขแก้ว วศ.2505
5. นายสุเมธ ตันธุวนิตย์ วศ.2506
6. นายอดิเทพ พิศาลบุตร์ วศ.2508
7. นายศุภชัย สุทธิพงษ์ชัย วศ.2510
8. นายฤทธิ์ ธีระโกเมน วศ.2512
.
รางวัลวิศวจุฬาดีเด่น ครั้งที่ 18 (พ.ศ. 2566) จำนวน 9 ท่าน
1. นายชัยสิทธิ์ ธรรมพีร วศ.2515
2. นายศิลปชัย วัชระ วศ. 2519
3. นายธิติ โตวิวัฒน์ วศ.2524
4. นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส วศ.2524
5. นายกฤษณ์ อิ่มแสง วศ.2526
6. นายธนพล ศิริธนชัย วศ.2527
7. รศ. ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล วศ.2529
8. นายกำพล โชติปทุมวรรณ วศ.2530
9. นายดนุชา พิชยนันท์ วศ.2532
.
ในการนี้ ศาสตราจารย์ ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดี พร้อมด้วยผู้บริหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์ได้ไปร่วมแสดงความยินดีแก่ผู้ที่ได้รับรางวัล
คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอแสดงความยินดีแด่ รองศาสตราจารย์ ดร.เสวกชัย ตั้งอร่ามวงศ์ ผู้ช่วยคณบดี และอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา ในโอกาสที่ได้รับรางวัล Australian Alumni Award “Alumni Innovation 2023” จากทาง AAA – Australian Alumni Association Thailand สมาคมนักเรียนเก่าออสเตรเลีย และ Australian Embassy, Thailand เมื่อวันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2566
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดการประกวดนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมรอบชนะเลิศ (Final Pitching) ภายใต้โครงการ Envi Mission ภารกิจรักษ์สิ่งแวดล้อม ปีที่ 4 “ Decode the Pipeline : Electrify the Future รวมพลังคิด(ส์) ฝ่าวิกฤตพลังงาน ” ณ ห้องประชุม ดร.เทียม โชควัฒนา อาคารมงกฎสมมติวงศ์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
.
.
ก่อนเริ่มการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ (Final Pitching) ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล รองคณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวต้อนรับและสรุปผลการดำเนินกิจกรรมของโครงการฯ ที่ผ่านมา
.
ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล กล่าวว่า สถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะสื่อมวลชนได้ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ทั้งด้านการศึกษาและเผยแพร่ความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความตระหนักรู้ (awareness) ผ่านรายการ Envi Insider หนึ่งในรายการวิทยุของสถานีฯ โดยมีคณาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และแขกรับเชิญ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาวิชาและจากหลากหลายภาคส่วนมาร่วมรายการเพื่อแพร่ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชนทั่วไป นำไปสู่ความร่วมมือระหว่างสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกันจัดโครงการ ENVI Mission ภารกิจรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว สำหรับโครงการ ENVI Mission ภารกิจรักษ์สิ่งแวดล้อม ปีที่ 4 นี้ได้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Decode the Pipeline: Electrify the Future รวมพลังคิด(ส์) ฝ่าวิกฤตพลังงาน” โดยมีเป้าหมายเพื่อปลูกฝังแนวคิดรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา และส่งเสริมให้นักเรียนนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการฯ ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในชุมชนของตนเองผ่านการทำโครงงานนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จากการคัดเลือกผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนกว่า 800 ทีมจากโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย มีเพียง 20 ทีมเท่านั้นที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก และได้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการ ณ ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จังหวัดสระบุรีเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน และจากทีมที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกจำนวน 20 ทีมนี้มีเพียง 8 ทีมเท่านั้นที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และได้เข้าร่วมกิจกรรมเหลาคม (sharpening session) เพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็นก่อนเข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันนี้
.
ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ (Final Pitching) แต่ละทีมได้นำเสนอโครงงานนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมของตนเองและตอบคำถามจากคณะกรรมการรวมเป็นเวลา 10 นาที โดยผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศมีรายละเอียดดังนี้
รางวัลชนะเลิศ จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ ทีม MVSK SMA BOYZ จากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท ซึ่งได้นำเสนอนวัตกรรม “ทุ่นลอยน้ำไดนาโม”
สมาชิกในทีมประกอบด้วย (1) นายหาญพล พรหมสมบัติ (2) นายศักดิ์นที อ่อนรักษ์ และ (3) นายจักรวัฒน์ ชูเกิด โดยมีครูสมศักดิ์ คงสกุล เป็นครูที่ปรึกษา
.
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ ทีม ACS ENVI YAISON จากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท ซึ่งได้นำเสนอนวัตกรรม “ฉนวนกันความร้อนจากใยสน”
สมาชิกในทีมประกอบด้วย (1) นายเสฏฐนันท์ พลคำ (2) นายกรวิชญ์ สุรฤทธิ์โยธิน และ (3) นายศิวัจน์ เวชสวัสดิ์ โดยมีครูเดชา ขันธจิตต์ เป็นครูที่ปรึกษา
.
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ ทีมเอิ้ดเอิ้ดพร้อมติด จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท ซึ่งได้นำเสนอนวัตกรรม “เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานคลื่นสำหรับเรือประมง”
สมาชิกในทีมประกอบด้วย (1) นายพันธุ์ธัช ปราการรัตน์ (2) นางสาวโรสลิล เมฆทวีพงศ์ และ (3) นายภัทรพล สีเที่ยงธรรม โดยมีครูนาอีม บินอิบรอเฮง เป็นครูที่ปรึกษา
.
รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาท ได้แก่
– ทีม Care Energy Care World จากโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งได้นำเสนอนวัตกรรม “ร่ม Solar Cell ติดพัดลม”
สมาชิกในทีมประกอบด้วย (1) นายนัทธพงศ์ เทพบุรี (2) นางสาวกฤติยาภรณ์ แซ่อึ้ง และ (3) นางสาวกัญญาวีร์ กาญจนกุล โดยมีครูสุกัญญา นาคอ้น เป็นครูที่ปรึกษา
– ทีม INFINIX จากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้นำเสนอนวัตกรรม “การผลิตไฟฟ้าจากลมของแอร์ คอมเพรสเซอร์”
สมาชิกในทีมประกอบด้วย (1) นายธีรภัทร สอาดสุด (2) นายอติคุณ ชัยวรรณะ และ (3) นายโชติวัฒนา ทองสะอาด โดยมีครูกฤติพงศ์ วชิรางกุล เป็นครูที่ปรึกษา
.
หลังจากการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเสร็จสิ้น ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวแสดงความยินดีและกล่าวปิดโครงการฯ
.
ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล กล่าวว่า จากการดำเนินโครงการฯ ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา เราได้เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจและศักยภาพของเยาวชนคนรุ่นใหม่ในการเรียนรู้และนำเสนอแนวคิดและนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งประเด็นความยั่งยืนเป็นสิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้กันไปแล้วจากการเข้าร่วมโครงการฯ นี้ นอกเหนือจากความยั่งยืนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะมีบทบาทสำคัญในวันข้างหน้าคือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก สำหรับแนวคิดและนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่นักเรียนได้นำเสนอในวันนี้ หากทีมใด (ไม่จำเพาะว่าต้องเป็นทีมที่ได้รับรางวัลเท่านั้น) ต้องการต่อยอดนวัตกรรมของตนเอง ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็ได้เตรียมทุนการศึกษาไว้จำนวนหนึ่งสำหรับการพัฒนาต่อยอดโครงงานฯ ของนักเรียนด้วย หลังจากโครงการฯ นี้ได้ดำเนินงานเสร็จสิ้นลงไปแล้ว คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ได้ผ่านการเข้าร่วมโครงการฯ นี้กับเราจะยังคงพัฒนาและต่อยอดแนวความคิดของทีมตนเองไปสู่การปฏิบัติ อันเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อมุ่งสู่ Thailand Inclusive Growth ไปด้วยกันต่อไป
เมื่อวันพุธที่ 13 กันยายน 2566 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย คณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นเจ้าภาพจัดพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับ บริษัท เซ็นส์ อินโฟ เทค จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์และการสร้างสรรค์โปรแกรม ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ นำโดย ศาสตราจารย์ ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดี ได้กล่าวต้อนรับและร่วมพูดคุยแสดงความยินดีกับคุณภัสสร ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม กรรมการผู้จัดการบริษัท Sense Info Tech ถึงความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและบริษัทครั้งนี้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตบุคลากรด้านดิจิทัลให้กับประเทศ โดยนิสิตในหลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล (Computer Engineering and Digital Technology: CEDT) จะมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของโลกธุรกิจในปัจจุบัน
บริษัท เซ็นส์ อินโฟ เทค จำกัด มีความเชี่ยวชาญทางด้านซอฟต์แวร์และการให้คำปรึกษา รวมถึงบทบาทสำคัญคือเป็นเบื้องหลังผู้สร้างโปรแกรมของภาครัฐ เช่น โปรแกรม LandsMaps ใช้สำหรับการหารูปแปลงที่ดินจากแผนที่และโปรแกรมนัดหมายติดต่อศาล ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับประชาชนที่ต้องทำการติดต่อฟ้องร้อง คดีความต่าง ๆ โดยบริษัทได้สร้างสรรค์นวัตกรรมมากมายและเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีเพื่อส่งมอบบริการที่ดีในระดับมาตรฐานสากล
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ยอมรับทั้งหมดประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้