ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานเปิดตัวโครงการ CHULA LEARN DO SHARE PLUS พร้อมรับฟังเสวนาทางวิชาการ “นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการจัดการข้อมูลเพื่อการสร้างขีดความสามารถด้านการจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” และการบรรยายพิเศษ เรื่อง “จาก COP 29 สู่แนวทางการดำเนินงาน: ก้าวต่อไปของ SMEs ไทย”

คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานเปิดตัวโครงการ CHULA LEARN DO SHARE PLUS
.
พร้อมรับฟังเสวนาทางวิชาการ “นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการจัดการข้อมูลเพื่อการสร้างขีดความสามารถด้านการจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” และการบรรยายพิเศษ เรื่อง “จาก COP 29 สู่แนวทางการดำเนินงาน: ก้าวต่อไปของ SMEs ไทย”
.
ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ COP สู่แนวทางการดำเนินงาน: ก้าวต่อไปของ SMEs ไทย รวมถึงการแลกเปลี่ยนมุมมองผ่านเวทีเสวนา “นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการจัดการข้อมูลเพื่อการสร้างขีดความสามารถด้านการจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม” อีกทั้งเกิดความตระหนักรู้ และเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนประเทศไทยมุ่งสู่สังคมเป็นกลางทางด้านคาร์บอนด้วยนวัตกรรม
.
โดยความร่วมมือภายใต้โครงการอาศรมความคิด อรุณ สรเทศน์ ณ ลานเกียร์ (เปิดโลกลานเกียร์) ระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมูลนิธิ อรุณ สรเทศน์ ร่วมกับ สถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน (Carbon Institute for Sustainability: CBiS) และภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เนื่องในโอกาสครบรอบวัน อรุณ สรเทศน์ รำลึก ประจำปี 2568
.
ในวันพุธที่ 22 มกราคม 2568
ระหว่างเวลา 09.00 – 12.00 น.
ณ ห้องประชุม 117 ชั้น 1 ตึก 3
.
ผู้สนใจสามารถสมัครลงทะเบียนเข้าร่วมงานบรรยายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ที่

คณาจารย์และนิสิต คณะวิศวฯ จุฬาฯ ได้รับรางวัล JDR Award for the Most Cited Paper 2024

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 สำนักบรรณาธิการวารสาร Journal of Disaster Research (JDR) ได้จัดพิธีมอบรางวัล JDR Award ที่ Gakushi Kaikan ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จากการพิจารณาโดยคณะกรรมการสำหรับผลงานวิจัยในปีนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฏฐ์ ลีละวัฒน์ ผู้ช่วยคณบดี และอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับเชิญให้รับรางวัล JDR Award for the Most Cited Paper ประจำปี 2567 จากผลงานบทวิจัยเรื่อง “Twitter Sentiment Analysis on Bangkok Tourism During the COVID-19 Situation Using Support Vector Machine Algorithm”
.
บทความนี้เผยแพร่ในปี 2564 โดยมีผู้ร่วมวิจัยประกอบด้วย นาย ธนภัทร สนธยาสาระ, นาย สิรวิศว์ จริยพงศ์ไพบูลย์, นาย อานนท์ พรหมจรรย์, นาย ณภัทร ศีลพิพัฒน์, ดร.กำพล แสงทับทิม (นักวิจัยหลังปริญญาเอก ประจำภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย), อาจารย์ ดร.จิง ถาง (อาจารย์ประจำสำนักบริหารหลักสูตรวิศวกรรมนานาชาติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย), และรองศาสตราจารย์ ดร.ณัฏฐ์ ลีละวัฒน์ (อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) โดยบทความนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Disaster Research, Vol. 16, No. 1, หน้า 24-30 https://doi.org/10.20965/jdr.2021.p0024

พิธีส่งมอบระบบประปาโซล่าเซลล์ชุมชน และฝายกักเก็บน้ำ และระบบกระจายน้ำ “ค่ายวิศวพัฒน์ 10” เพื่อรองรับการปลูกป่าแบบผสมผสาน “ป่าสร้างรายได้” ซึ่งดำเนินการก่อสร้างโดยนิสิตคณะวิศวฯ จุฬาฯ ณ ห้วยน้ำเพี้ยโมเดล บ้านเชตวัน ต.สันทะ อ.นาน้อย จ.น่าน

พิธีส่งมอบระบบประปาโซล่าเซลล์ชุมชน และฝายกักเก็บน้ำ และระบบกระจายน้ำ “ค่ายวิศวพัฒน์ 10” เพื่อรองรับการปลูกป่าแบบผสมผสาน “ป่าสร้างรายได้” ซึ่งดำเนินการก่อสร้างโดยนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิยาลัย ณ ห้วยน้ำเพี้ยโมเดล บ้านเชตวัน ต.สันทะ อ.นาน้อย จ.น่าน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567
.
โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.สรรเพชญ ชื้อนิธิไพศาล อาจารย์ที่ปรึกษาค่าย และ จ.ส.อ.ธงชัย ใจดอนมูล ปลัด อบต.สันทะ กล่าวถึงความเป็นมาของค่ายและรายงานผลการดำเนินงาน และ รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ กล่าวส่งมอบโครงการ โดยนางวจิราภรณ์ อามาตยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีรับมอบโครงการ เพื่อให้อบต.สันทะ ผู้นำชุมชน และเกษตรกรในพื้นที่ ได้บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์ต่อไป
.
ทั้งนี้ “ค่ายวิศวพัฒน์” ของนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ดำเนินการพัฒนาพื้นที่ห้วยน้ำเพื่อโมเดลมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน และครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 10 แล้ว ทำให้พัฒนาพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง
.
โครงการพัฒนาห้วยน้ำเพี้ยโมเดล มีพื้นที่ต้นแบบ 250 ไร่และพื้นที่ขยายผลอีก 250 ไร่ รวมประมาณ 500 ไร่ เดิมเป็นพื้นที่แห้งแล้ง เกษตรกรปลูกพืชเชิงเดี่ยว พืชล้มลุก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นหลัก มีการใช้สารเคมี ยาฆ่าหญ้า/แมลง มีต้นทุนในการผลิตสูง ไม่ยั่งยืน และมีหนี้สินสะสม
.
ในปี 2559 เป็นต้นมา อบต.สันทะ ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับภาคีเครือข่าย เช่น ป่าไม้นาน้อย อุทยานแห่งชาติขุนสถาน สถาบันพัฒนาพื้นที่สูง(โครงการหลวงแบบขุนสถาน) ผู้นำชุม และเกษตรกร ดำเนินการพัฒนาพื้นที่ โดยการก่อสร้างฝายกักเก็บน้ำ ฝายชลอน้ำ ฝายดักตะกอน สำเร็จแล้วรวม จำนวน 19 จุด, ก่อสร้างระบบกระจากน้ำ/ประปาภูเขาครอบคลุมทุกแปลงในพื้นที่ต้นแบบ 250 ไร่, ขุดบ่อพวงเพื่อกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในฤดูแล้ง จำนวน 13 บ่อ, ก่อสร้างศูนย์เรียนรู้ 1 แห่ง, ศาลาเนกประสงค์ 17แห่ง, ก่อสร้างบ้านดิน 2 หลัง และปรับปรุงให้มีที่พักเพื่อรองรับการก้าวสู่การท่องเที่ยวเชิงเกษตร จำนวน 5 หลัง, ก่อสร้างระบบประปาโซล่าเชลชุมชน เพื่อส่งน้ำขึ้นพื้นที่สูงรองรับการปลูกป่าชุมชน และป่าเศรษฐกิจ จำนวน 2 จุด
จนถึงปัจจุบัน ได้ขอคืนพื้นที่จากเกษตรกรบางส่วน ดำเนินการปลูกป่าชุมชนตามกลยุทย์ “ป่ากินได้ เห็ดไมคอร์ไรซ่าในป่าชุมชน” แล้ว จำนวน 50 ไร่ และปรับเปลี่ยนพื้นที่จากข้าวโพด เปลี่ยนเป็นไม้ผล ไม้เศรษฐกิจ ตามกลยุทย์ป่าสร้างรายได้ สำเร็จแล้ว ร้อยละ 70 ของพื้นที่ดำเนินงาน
และนับเป็นโอกาสอันดียิ่ง ที่เร็ว ๆ นี้ พื้นที่โครงการพัฒนาห้วยน้ำเพี้ยโมเดล จะได้รับกล้าไม้มะริด สายพันธุ์ ”มะริดสมเด็จพระกนิษฐา“ ที่สนับสนุนโดยสมาคมน้องใหม่จุฬา 17 และศูนย์เพาะกล้าจุฬาไกล่น่าน นำมาปลูกในพื้นที่โครงการพัฒนาห้วยน้ำเพี้ยโมเดล เพื่อเป็นพื้นที่ขยายผลการปลูกไม้มะริด ให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน ตามความตั้งใจของ CU17 และตามปฏิทานอันแน่วแน่ของคุณอาทิตย์ “สวนอาดาว” ผู้ที่นำเมล็ดพันธุ์มาจากประเทศฟิลิบปินส์ต่อไป

คณะวิศวฯ จุฬาฯ ร่วมกับ Stelligence ลงนามความร่วมมือพัฒนานิสิตสู่ผู้เชี่ยวชาญในสายงานเทคโนโลยี

เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2567 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล (Bachelor of Engineering in Computer Engineering and Digital Technology) เพื่อพัฒนาความเชื่อมโยงระหว่างอุตสาหกรรมและการพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างภาคการศึกษาและภาคธุรกิจ โดยการพัฒนาโปรแกรมฝึกอบรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มทักษะและความสามารถของบุคลากรให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมในระดับสากล ซึ่งมีแผนต่อยอดเพื่อขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมทุกหลักสูตรและทุกสาขาวิชาภายในคณะฯ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของนิสิตในทุกมิติ
.
พิธีลงนามความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวฯ จุฬาฯ ร่วมกับ ดร.สันติสุข ลิ้มปีติเจริญโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด เป็นผู้ลงนาม พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรรถวิทย์ สุดแสง หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ และ นายสรุจ ทิพเสนา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี ร่วมเป็นสักขีพยาน
.
ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและสถาบันการศึกษานี้ เป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านดิจิทัลในประเทศไทย โดยมุ่งผลิตบัณฑิตที่มีทักษะและความรู้ทันสมัย ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรมดิจิทัล การพัฒนาหลักสูตรจะเน้นการเรียนรู้เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น ซอฟต์แวร์ ความปลอดภัยไซเบอร์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อให้บัณฑิตพร้อมรับมือกับความท้าทายในโลกดิจิทัล พร้อมทั้งสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและความสามารถทางดิจิทัลของประเทศ ความร่วมมือนี้ยังช่วยเตรียมความพร้อมให้กับนิสิตในการรับมือกับโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ ในโลกเทคโนโลยี โดยการเสริมทักษะการทำงานจริงผ่านการฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ส่งผลให้ประเทศไทยมีบุคลากรที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและสร้างความก้าวหน้าในอนาคตได้อย่างยั่งยืน

คณะวิศวฯ จุฬาฯ ขอแสดงความยินดีกับคณาจารย์วิศวฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันขนส่ง และตำแหน่งทางวิชาการ

คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ขอแสดงความยินดีแด่ ศาสตราจารย์ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ เฉลิมพงศ์
เนื่องในโอกาสได้รับแต่งตั้งจากที่ประชุมสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ดำรงตำแหน่ง ”ผู้อำนวยการสถาบันขนส่ง”
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป
.
และขอแสดงความยินดีแด่
รองศาสตราจารย์ ดร.พิษณุ คะนองชัยยศ
อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
เนื่องในโอกาสได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ ตำแหน่ง “รองศาสตราจารย์”
.
รองศาสตราจารย์ ดร.นัทที นิภานันท์
อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
เนื่องในโอกาสได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ ตำแหน่ง “รองศาสตราจารย์”
.
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีรพล ศิลาวรรณ์
อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า
เนื่องในโอกาสได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ ตำแหน่ง “ผู้ช่วยศาสตราจารย์”

คณะวิศวฯ จุฬาฯ จัดอบรมเชิงปฏิบัติ “CoLLAB” เพื่อพัฒนาทักษะการบริหารงานและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างผู้บริหารและหัวหน้างาน

คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดโครงการ Co-learning Leadership Aspiration Building (CoLLAB) กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้บริหารและหัวหน้างานสายสนับสนุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะสำคัญที่จำเป็นต่อการบริหารงานของคณะ รวมถึงสร้างทัศนคติที่ดีและความเข้าใจในการทำงานร่วมกัน
.
กิจกรรมในครั้งนี้มุ่งเน้นให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันในรูปแบบ “เพื่อนร่วมชั้นเรียน” ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้บริหารและบุคลากรได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ผ่านกระบวนการที่เน้นการปฏิบัติจริง ทั้งการระดมสมอง การทำเวิร์กช็อป และการแก้ปัญหาจากสถานการณ์จำลองที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงาน
.
รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ กล่าวว่า “กิจกรรมครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจที่ดีระหว่างผู้บริหารและหัวหน้างานสายสนับสนุน เพื่อร่วมกันพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ในระยะยาว”
.
โดยกิจกรรมอบรมต่อเนื่องครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 คณะวิศวฯ ได้รับเกียรติจากทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนของบริษัท PWC ประเทศไทย มาร่วมให้ความรู้และจัดทำเวิร์คช็อปการดำเนินงานเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการเพื่อผนวกหลักการ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ของคณะฯ โดยมีเป้าหมายสัมฤทธิ์ผล Engineering for Sustainable Future ในระยะเวลา 1-3 ปี
.
และสำหรับกิจกรรมอบรมครั้งที่ 3 ในหัวข้อ “Outside-In : The New Growth Landscape for Engineering Education Management” เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ได้รับเกียรติจากวิทยากรกิตติมศักดิ์ คุณสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน และคุณปิยะชาติ อิศรภัคดี CEO BRANDi and Companies มาร่วมเปิดมุมมองแห่งความสำเร็จและเสียงสะท้อนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก เพื่อร่วมขับเคลื่อนคณะวิศวกรรมศาสตร์ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ พร้อมปรับตัวและเผชิญความท้าทายต่าง ๆ ในการบริหารจัดการองค์กรที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน

คณะวิศวฯ จุฬาฯ และ KPMG ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และร่วมผลักดันการพัฒนาองค์ความรู้ด้านความยั่งยืนที่เหมาะสมกับภาคธุรกิจและสังคมไทย

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดี และ บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย ที่ปรึกษาธุรกิจ จำกัด โดย คุณเจริญ ผู้สัมฤทธิ์เลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง คณะวิศวฯ จุฬาฯ และ KPMG เพื่อเป็นการแสดงความมุ่งมั่นที่จะประสานความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และร่วมผลักดันการพัฒนาองค์ความรู้ด้านความยั่งยืนที่เหมาะสมกับสังคมไทย เพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจทุกระดับสู่ความยั่งยืน อันเป็นการสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศไทยในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยครอบคลุมมิติการพัฒนาทั้งด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และ การกำกับดูแล (Governance) ณ ห้องประชุมสวนรวมใจ 1 คณะวิศวฯ จุฬาฯ

ความร่วมมือนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อร่วมจัดการองค์ความรู้ด้านความยั่งยืนที่เหมาะสมกับภาคธุรกิจและสังคมไทย ร่วมเสริมสร้างศักยภาพ และบูรณาการความร่วมมือเพื่อพัฒนาความพร้อมของบุคลากร และส่งเสริมความร่วมมือในการกระตุ้นการรับรู้ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของภาคธุรกิจ สังคม รวมถึงสนับสนุนนโยบายภาครัฐด้านความยั่งยืน

ภายใต้ความร่วมมือนี้ ทั้งสองฝ่ายได้กำหนดแนวทางการดำเนินการร่วมกัน เพื่อสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ด้านความยั่งยืนที่เหมาะสมกับภาคธุรกิจและสังคมไทย เช่น การแลกเปลี่ยนการบรรยายจากบุคลากรของคณะวิศวฯ จุฬาฯ และบริษัทฯ ในด้านความยั่งยืน และการรับนิสิตฝึกงานจากคณะวิศวฯ โดยบริษัทฯ ตลอดจนร่วมกันสนับสนุนการจัดกิจกรรมสัมมนา เพื่อเผยแพร่ผลการศึกษาวิจัยด้านแนวคิดผู้นำและองค์ความรู้ด้านความยั่งยืน (Thought Leadership and Publication) ด้าน ESG ในแง่มุมของการปฏิบัติจากภาคธุรกิจและการศึกษาวิจัยจากภาควิชาการ เพื่อสนับสนุนการสร้างเครือข่ายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย

 

รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงความร่วมมือกับทางบริษัทเคพีเอ็มจีครั้งนี้ เพื่อร่วมกันสนับสนุนและดำเนินงานทางวิชาการ รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาองค์ความรู้ด้านความยั่งยืน เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ที่ได้สู่การปฏิบัติจริง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ด้าน ESG การพัฒนาศักยภาพนิสิตของคณะวิศวฯ ที่ครอบคลุมทุกมิติ ESG ให้สามารถเป็นวิศกรระดับโลก เหมาะสมกับสังคมไทยในการขับเคลื่อนธุรกิจทุกระดับสู่ความยั่งยืน อันเป็นการสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศไทยในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วย

 

คุณเจริญ ผู้สัมฤทธิ์เลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย ที่ปรึกษาธุรกิจ จำกัด ได้ให้ความเห็นว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง ผมเชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะนำไปสู่การพัฒนาองค์ความรู้ และการพัฒนาด้านความยั่งยืนในมิติ ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ ตลอดจนการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสององค์กร

 

คณะวิศวฯ จุฬาฯ จัดงาน TOWN HALL meeting with DEAN: Chula Engineering Next Move คณบดีพบประชาคมวิศวฯ

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ณ หอประชุม HALL OF INTANIA คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดงาน TOWN HALL meeting with DEAN: Chula Engineering Next Move คณบดีพบประชาคมวิศวฯ นำทีมโดย รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดี พร้อมด้วย รองคณบดีทั้ง 8 ท่าน ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.นภดนัย อาชวาคม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุรัฐ ขวัญเมือง รองศาสตราจารย์ ดร.เสวกชัย ตั้งอร่ามวงศ์ ศาสตราจารย์ ดร.เฉลิมชนม์ สถิระพจน์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฟ้าลั่น ศรีสุริยชัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงษ์แพทย์ เพ่งวาณิชย์ ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล และรองศาสตราจารย์ ดร.อติวงศ์ สุชาโต มานำเสนอนโยบายการบริหารคณะวิศวกรรมศาสตร์ และร่วมพูดคุยถึงการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และการดำเนินงานในอนาคต โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชาญณรงค์ บาลมงคล ผู้ช่วยคณบดี และรองศาสตราจารย์ ดร.จรัสรัก วิภาวกิจ ผู้ช่วยคณบดี เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งมีคณาจารย์และบุคลากรวิศวฯ เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

คณะวิศวฯ จุฬาฯ ขอแสดงความยินดีกับนิสิตของภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในงาน AI INNOVATOR AWARD 2024 PITCH COMPETITIONS

คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอแสดงความยินดีกับนิสิตของภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในงาน AI INNOVATOR AWARD 2024 PITCH COMPETITIONS เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567
.
การประกวดในครั้งนี้ นิสิตภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ หลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 1 ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่
.
นางสาวนภัสชล อินทะพันธุ์
นายแก้วกล้า สร้อยกาบแก้ว
นายกฤตภาส ตระกูลพัว
นายศักดิ์ธวัช ไพรัชศรานนท์
.
โดยได้รับทุนการศึกษา 100,000 บาท พร้อมโล่และประกาศนียบัตร
.
การแข่งขันครั้งนี้มีมหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล (CMKL University) ร่วมกับสถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AIEI) เป็นผู้จัดการแข่งขันที่ได้เปิดโอกาสให้นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และนักศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่า ร่วมแสดงศักยภาพในการประกวดโครงการนวัตกรรมสร้างสรรค์ (Creative & AI Innovation) ประจำปี 2024 AI Innovator Award 2024 : ปลดล็อคศักยภาพแห่งอนาคต ภายใต้แนวคิด “AI and creativity converge in a realm of endless possibilities” หรือ “ปัญญาประดิษฐ์และความคิดสร้างสรรค์บรรจบกันในอาณาจักรแห่งความเป็นไปได้ไม่รู้จบ”

วิศวฯ จุฬาฯ แพทย์ จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ สาธารณสุข จับมือครั้งสำคัญ ร่วมลงนามยกระดับดูแลสุขภาพจิตผ่านนวัตกรรมดิจิทัล Mindful Hub

เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2567 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกระทรวงสาธารณสุข จัดงานแถลงข่าวลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ณ ห้องทรูแลป ตึก 3 คณะวิศวฯ จุฬาฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการยกระดับการดูแลสุขภาพจิตผ่านการนำนวัตกรรมดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์ Mindful Hub มาใช้เป็นแนวทางในการดูแลนิสิตนักศึกษาแพทย์
ภายในงานดังกล่าว ได้รับเกียรติอย่างสูงจาก รศ. นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผศ. ดร.สุรัฐ ขวัญเมือง รองคณบดีฝ่ายบริหาร รักษาการแทนคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผศ. ดร.รณกรณ์ บุญมี รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษาและนิติการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายแพทย์ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในครั้งนี้ พร้อมกับร่วมรับฟังเสวนาเกี่ยวกับ “ปัญหาสุขภาพจิตกับแนวทางการดูแลนิสิตนักศึกษา”
.
รศ. นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ในยุคดิจิทัลที่โลกหมุนเร็วขึ้น ความกดดันก็มากขึ้น นิสิตแพทย์ คือ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเป็นพิเศษ ดังนั้นการดูแลสุขภาพจิต จึงมิใช่เพียงเรื่องของการรักษา แต่เป็นเรื่องของการป้องกันและการสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ จึงร่วมมือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ ในการพัฒนา Mindful Hub ขึ้นมา โดยผสานจุดแข็งของทั้งสององค์กรด้วยการนำความเชี่ยวชาญทางการแพทย์มาพัฒนาร่วมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อสร้างช่องทางการเข้าถึงบริการด้านการดูแลสุขภาพจิตให้กับนิสิตนักศึกษารุ่นใหม่ ทั้งในเรื่องของความสะดวก ความเป็นส่วนตัว และการรักษาความลับ
.
เพราะการดูแลสุขภาพจิตมิใช่เพียงเรื่องของการรักษา แต่เป็นเรื่องของการป้องกันและการสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า แม้ 1 ใน 3 ของนักศึกษาทั่วโลกจะประสบปัญหาสุขภาพจิต แต่มีเพียงร้อยละ 40 ที่กล้าเข้าถึงบริการ โดยอุปสรรคสำคัญคือความกลัวการถูกตีตราจากสังคม ดังนั้นการลงนามความร่วมมือฯ ครั้งนี้ จึงเป็นการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันว่า “การดูแลสุขภาพจิตของนิสิตนักศึกษาเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการใส่ใจอย่างจริงจัง” รศ. นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ กล่าว
.
ผศ. ดร.สุรัฐ ขวัญเมือง รองคณบดีฝ่ายบริหารรักษาการแทนคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวเสริมถึง การเข้าร่วมงานบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพจิตผ่านการนำนวัตกรรมดิจิทัล Mindful Hub ว่า เนื่องจากสุขภาพจิตกำลังเป็นประเด็นที่ทวีความสำคัญเป็นอย่างมากในสังคมที่เกิดขึ้นกับคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น จนนำไปสู่ความสูญเสียที่อาจเกิดจากภาวะซึมเศร้า ที่ผ่านมา คณะวิศวกรรมศาสตร์จึงได้ร่วมมือกับทางคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการจัดทำโครงการศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์เพื่อการแพทย์ด้านจิตเวช หรือ AIMET เพื่อใช้ในการสนับสนุนบริการทางแพทย์ในด้านจิตเวช ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์
.
ขณะที่ Mindful Hub จะเป็นระบบช่วยดูแลให้นิสิต นักศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักศึกษาแพทย์ ได้เข้าถึงบริการและความช่วยเหลือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต อย่างเป็นความลับ ปัจจุบัน Mindful Hub ได้เริ่มทดลองใช้กับคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นรุ่นแรก และมีการขยายผลการใช้งานไปยังนักศึกษาแพทย์ของโครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (สบพช.) ในกลางปี 2568 นี้
.
อาจารย์นายแพทย์อติคุณ ธนกิจ ผู้ช่วยคณบดี ฝ่ายกิจการนิสิต คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ มีนโยบายดูแลสุขภาพจิตของนิสิตแพทย์ตลอดระยะเวลาการศึกษา เพื่อให้นิสิตได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม และสามารถผ่านการศึกษาในหลักสูตรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น กิจกรรมพัฒนาทักษะวิธีการดูแลสุขภาพใจและวิธีรับมือกับความเครียดในรายวิชา Medical Professional Development การจัดระบบให้มีอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดูแลนิสิตตั้งแต่เริ่มเข้าศึกษา คอยให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ และเสนอแนะแนวทางเมื่อนิสิตมีปัญหา โดยอาจารย์ 1 คน ดูแลนิสิต 6 คน
.
ส่วนด้านสุขภาพจิต ภายใต้โครงการ “MDCU Let’s Talk” ฝ่ายกิจการนิสิตได้พัฒนาช่องทางสื่อสารออนไลน์ คือ Line OA ขึ้นมา เพื่อให้นิสิตสามารถเข้าถึงระบบการนัดหมายปรึกษากับนักจิตวิทยา ได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็ว อีกทั้งยังทำระบบการนัดหมายจองออนไลน์ด้วย Google Forms ที่จำกัดการเข้าถึงเฉพาะนักจิตวิทยาที่ได้รับมอบหมาย เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของนิสิต พร้อมทั้งมีระบบและช่องทางการประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่าง ๆ ให้กับนิสิต อย่างหลากหลายมากมาย
.
ผศ.บุรชัย อัศวทวีบุญ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ให้นักศึกษาทุกคนเข้าถึงช่องทางในการรับบริการ ผ่านการประเมินภาวะสุขภาพจิต อย่างน้อยคนละครั้งต่อภาคการศึกษา รวมถึงการขอรับบริการปรึกษาทางจิตใจ ซึ่งทางมหาวิทยาลัย ฯ ได้ใส่เรื่องนี้เข้าไปในทุกโครงรายวิชาที่ทำการเรียนการสอน พร้อมกับปรับช่องทางให้นักศึกษาสามารถติดต่อรับบริการได้ตลอดเวลา คือ 24/7
.
มากกว่านั้น คือมีการนำระบบคัดกรองของ Dmind ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่นำมาผนวกเข้ากับระบบให้บริการสุขภาพจิตของมหาวิทยาลัย และได้พัฒนาระบบให้สามารถขอรับบริการผ่าน application ของนักศึกษา ที่ชื่อว่า TU greats ด้วยวิธีการนำแอปพลิเคชัน TU wellness ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สสส. มาเชื่อมแบบ single sign-on และนำ Dmind เข้าไปเป็นระบบคัดกรองด้านสุขภาพจิต ร่วมกับระบบอื่น ๆ เช่น การจองคิวเพื่อขอรับบริการ และประชาสัมพันธ์กิจกรรมด้านสุขภาพจิตต่าง ๆ
.
ขณะที่ นายกิตติพศ แสงสาย ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน แพลตฟอร์ม Mindful hub กล่าวถึง แนวคิดและความตั้งใจของการนำนวัตกรรมดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์ Mindful Hub มาใช้เป็นแนวทางในการดูแลนิสิตนักศึกษาในครั้งนี้ ว่าอยากมีส่วนเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องสุขภาพจิตให้กับนักเรียนแพทย์ เนื่องจากนักเรียนแพทย์ต้องเผชิญกับความเครียดทั้งจากเนื้อหาการเรียนที่มีปริมาณมากและซับซ้อน อีกทั้งต้องเจอกับสภาพแรงกดดันจากงานที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบที่สูงมาก รวมถึงต้องเผชิญกับความคาดหวังทั้งจากคนไข้ อาจารย์ และคนรอบข้าง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่มีความท้าทายสูงมาก โดยเฉพาะนักเรียนแพทย์ไม่สามารถหลีกหนีได้ ดังนั้นการที่ผมได้เข้ามาทำงานตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมเข้าใจถึงความต้องการของนักเรียนแพทย์ ว่าเทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์มอย่างนวัตกรรมดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์ Mindful Hub สามารถช่วยให้บริการด้านสุขภาพจิตของน้อง ๆ นักเรียน นิสิต นักศึกษา เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น
.
สุดท้ายนี้ สิ่งที่ผมอยากจะเห็นต่อไปในอนาคต คือ การได้นำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ในการดูแลสุขภาพจิตของนิสิตนักศึกษามากขึ้น เพราะกลุ่มนี้คือ ทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญของประเทศชาติ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน โดยมีจุดประสงค์คือนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราอาจไม่สามารถวัดผลเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้

บันทึกการตั้งค่า